Posted in

เมื่อต้องรับผิด หยุดกล่าวโทษผู้อื่น เส้นทางสู่ความเติบโตที่แท้จริง

ในชีวิตประจําวัน เราต่างเผชิญหน้ากับสถานแล้วนที่ผิดพลาดหรือไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ความสามารถในเรื่องที่จะยอมรับผิดโดยไม่มุ่งโทษผู้อื่นถือเป็นคุณลักษณะสําคัญที่แยกผู้ใหญ่ออกจากเด็ก และเป็นรากฐานของความสําเร็จในทุกด้านของชีวิต

ความหมายที่แท้จริงของความรับผิดชอบ

ความรับผิดชอบไม่ใช่เพียงแค่ยอมรับว่าเราทําผิด แต่หมายถึงความเข้าใจว่าเราเป็นเจ้าของผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากเดยนทางที่เราเลือก เมื่อเราหยุดมองหาคนที่จะโทษ เราจะเริ่มเห็นโอกาสในที่จะแก้ไขและปรับปรุงตนเอง เมื่อใดก็ตามที่เราชี้นิ้วไปที่ผู้อื่น เราจะสูญเสียอํานาจในที่จะควบคุมสถานแล้วน แต่เมื่อเรายอมรับว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา เราก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของแก้ไขด้วย

จิตวิทยาเบื้องหลังของเหตุใดเราจึงชอบโทษผู้อื่น

สมองของเรามีกลไกป้องกันตัวเองที่เรียกว่า “อคติในที่รับใช้ตนเอง” ซึ่งทําให้เรามักจะโทษสถานแล้วนภายนอกเมื่อสิ่งต่างๆ ไม่เป็นไปตามที่ต้อง เพราะยอมรับความผิดทําให้เกิดความรู้สึกเจ็บปวดและกระทบต่อภาพลักษณ์ของตนเอง อย่างไรก็ตาม ลักษณะนิสัยนี้กลับกลายเป็นอุปสรรคต่อพัฒนาพ์ส่วนตัว เมื่อเราหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ เราจะไม่ได้เรียนรู้จากความผิดพลาด และจะทําผิดซ้ําในอนาคต

ผลกระทบของความไม่ยอมรับผิด

เมื่อเราโทษผู้อื่นอยู่เสมอ เราจะพัฒนานิสัยที่เป็นอันตรายหลายประการ ได้แก่ ความสัมพันธ์ที่เสื่อมโทรม เนื่องจากคนรอบข้างรู้สึกไม่ปลอดภัยและไม่ไว้ใจเรา ความก้าวหน้าในชีวิตหยุดชะงัก เพราะเราไม่ได้เรียนรู้จากประสบการณ์ และความเครียดสะสมขึ้นเรื่อยๆ จากความรู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างอยู่นอกเหนืออํานาจของเรา ยิ่งไปกว่านั้น เราจะสูญเสียโอกาสในที่จะพัฒนาทักษะสําคัญอย่างที่จะแก้ปัญหา ความยืดหยุ่น และความเป็นผู้นํา เพราะทักษะเหล่านี้เกิดขึ้นได้เฉพาะเมื่อเราเผชิญหน้ากับความผิดพลาดอย่างตรงไปตรงมา

ขั้นตอนในที่จะพัฒนาความรับผิดชอบ

เริ่มต้นด้วยตั้งสติเมื่อเกิดปัญหา หยุดคิดทันทีก่อนที่จะหาคนโทษ และถามตัวเองว่า “เราทําอะไรได้บ้างในสถานแล้วนนี้” แทนที่จะถามว่า “ใครเป็นคนทําให้เกิดปัญหานี้” ฝึกสังเกตความรู้สึกของตัวเองเมื่อต้องรับผิด ความรู้สึกไม่สบายใจหรือขุ่นเคืองที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่อย่าปล่อยให้ความรู้สึกเหล่านั้นควบคุมเดยนทางของเรา มองหาบทเรียนในทุกสถานแล้วนที่ผิดพลาด ถามตัวเองว่า “เราได้เรียนรู้อะไรจากเรื่องนี้บ้าง” และ “เราจะทําอย่างไรให้ดีขึ้นในครั้งหน้า” คําถามเหล่านี้จะช่วยเปลี่ยนโหมดความคิดจากความโกรธเป็นความเติบโต

วิธีปฏิบัติในชีวิตประจําวัน

ในที่ทํางาน เมื่อโครงคัดล้มเหลว แทนที่จะโทษเพื่อนร่วมงาน ลูกค้า หรือสถานแล้วนภายนอก ให้มองหาส่วนที่เราสามารถปรับปรุงได้ อาจเป็นที่จะสื่อสารให้ชัดเจนขึ้น จําลองแผนงานได้ดีขึ้น หรือเตรียมตัวรับมือกับปัญหาได้มากขึ้น ในความสัมพันธ์ส่วนตัว เมื่อเกิดความขัดแย้ง ให้ยอมรับว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา ไม่ว่าจะเป็นวิธีสื่อสาร ความคาดหวัง หรือพฤติกรรมที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิด สําหรับเป้าหมายส่วนตัว เมื่อไม่บรรลุสิ่งที่ตั้งใจไว้ ให้หลีกเลี่ยงที่จะโทษสถานแล้วนภายนอกอย่างขาดเวลา ขาดเงิน หรือขาดสนับสนุน แต่ให้มองหาสิ่งที่เราควบคุมได้ เช่น วิธีจัดเวลา วิธีหาทรัพยากร หรือวิธีขอความช่วยเหลือ

ผลประโยชน์ที่จะได้รับ

เมื่อเราพัฒนานิสัยในที่จะยอมรับผิดและไม่โทษผู้อื่น เราจะเห็นผลประโยชน์ที่เด่นชัดในหลายด้าน ความสัมพันธ์จะแน่นแฟ้นขึ้น เพราะผู้คนไว้ใจและเคารพคนที่รับผิดชอบต่อเดยนทางของตัวเอง ความก้าวหน้าในทํามาหากินจะรวดเร็วขึ้น เพราะเราเรียนรู้และปรับตัวได้ดีกว่าคนที่ชอบโทษผู้อื่น นอกจากนี้ เราจะรู้สึกมีอํานาจควบคุมชีวิตตัวเองมากขึ้น ความเครียดลดลง และความมั่นใจในตัวเองเพิ่มขึ้น เพราะเรารู้ว่าเราสามารถแก้ไขสถานแล้วนได้เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น

ความท้าทายและวิธีรับมือ

ความยากลําบากที่ใหญ่ที่สุดคือภาวะอึดอัดใจที่เกิดขึ้นเมื่อต้องรับผิด ซึ่งเป็นความรู้สึกธรรมชาติที่ทุกคนมี วิธีรับมือคือยอมรับความรู้สึกนั้นโดยไม่ต่อต้าน และเตือนตัวเองว่าความรู้สึกไม่สบายใจนี้เป็นสัญญาเจริญเติบโต อีกอย่างคือต้องระวังไม่ให้ไปสุดขั้วที่จะโทษตัวเองมากเกินไป ยอมรับผิดไม่ได้หมายความว่าต้องดูถูกตัวเอง แต่หมายถึงเห็นความจริงอย่างเป็นอ รวมถึงมองเห็นโอกาสในที่จะปรับปรุงตัว บางครั้งผู้อื่นอาจใช้ประโยชน์จากความซื่อสัตย์ของเรา ในกรณีนี้ เราต้องเรียนรู้ที่จะแยกแยะระหว่างรับผิดชอบในส่วนที่เป็นความจริงกับไม่ยอมให้ใครเอาเปรียบ

สรุปเนื้อหา

ความสามารถในที่จะยอมรับผิดโดยไม่โทษผู้อื่นเป็นทักษะชีวิตที่มีค่ามากที่สุดอย่างหนึ่งที่เราสามารถพัฒนาได้ แม้จะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ผลประโยชน์ที่จะตามมานั้นคุ้มค่าอย่างแน่นอน เมื่อเราหยุดมองหาคนที่จะโทษ เราจะเริ่มเห็นโอกาสในที่จะเติบโต เรียนรู้ และสร้างชีวิทที่ดีขึ้นให้กับตัวเองและคนรอบข้าง นี่คือเส้นทางสู่ความเป็นผู้ใหญ่ที่แท้จริงและความสําเร็จที่ยั่งยืนในทุกด้านของชีวิต