ในโลกของการลงทุนที่มีข้อมูลและทางเลือกมากมายมหาศาล หลักการที่เป็นอมตะและเรียบง่ายที่สุดข้อหนึ่งมาจาก วอร์เรน บัฟเฟตต์ นั่นคือปรัชญา Circle of Competence หรือ วงกลมความสามารถ แนวคิดนี้ไม่ได้เกี่ยวกับการเป็นผู้เชี่ยวชาญในทุกสิ่ง แต่เกี่ยวกับการ รู้ขีดจำกัด ของตนเอง และเลือกลงทุนในธุรกิจที่ผู้ลงทุนเข้าใจอย่างถ่องแท้เท่านั้น การยึดมั่นในหลักการนี้ได้กลายเป็นรากฐานที่ช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความน่าจะเป็นในการประสบความสำเร็จในการลงทุนระยะยาวให้กับนักลงทุนมาหลายทศวรรษ
Circle of Competence คืออะไร และทำไมจึงสำคัญ
Circle of Competence คือขอบเขตของความรู้ ความเข้าใจ และประสบการณ์ที่ผู้ลงทุนมีในอุตสาหกรรมหรือประเภทของธุรกิจใดธุรกิจหนึ่ง
การจำกัดขอบเขตความเสี่ยง
วอร์เรน บัฟเฟตต์ มักกล่าวว่า ความเสี่ยงที่แท้จริงมาจากการไม่รู้ การลงทุนในธุรกิจที่ซับซ้อนเกินกว่าความเข้าใจ มักจะนำไปสู่การตัดสินใจที่อิงตามกระแส ความตื่นเต้น หรือการเก็งกำไร โดยปราศจากการวิเคราะห์พื้นฐานที่แข็งแกร่ง การรักษาวงกลมความสามารถไว้จึงเป็นเสมือนการจำกัดความเสี่ยงด้วยการ หลีกเลี่ยงการคาดเดา และโฟกัสไปที่สิ่งที่สามารถประเมินมูลค่าได้อย่างมั่นใจ
ความได้เปรียบที่เหนือกว่านักลงทุนทั่วไป
นักลงทุนไม่จำเป็นต้องรู้ทุกเรื่องในตลาด แต่ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญในสิ่งที่ตนเองรู้ การมีความรู้เชิงลึกในอุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่งจะสร้าง ความได้เปรียบในการแข่งขัน ในการวิเคราะห์ข้อมูล นักลงทุนที่เข้าใจกลไกการทำเงิน จุดแข็งและจุดอ่อนของธุรกิจในวงกลมของตนเอง จะสามารถเห็นโอกาสและภัยคุกคามได้ก่อนที่คนอื่นจะมองเห็น ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
วิธีค้นหาและกำหนดขอบเขตของวงกลมความสามารถ
การกำหนดขอบเขตความสามารถนั้นเป็นเรื่องส่วนบุคคล ขึ้นอยู่กับภูมิหลัง การศึกษา และประสบการณ์ในชีวิตการทำงานของแต่ละคน
คำถามง่ายๆ ที่ต้องตอบให้ได้
ก่อนตัดสินใจลงทุนในธุรกิจใด ให้นักลงทุนถามตัวเองด้วยคำถามพื้นฐานที่สุดสามข้ออย่างตรงไปตรงมา
- ธุรกิจนี้ทำเงินได้อย่างไร กลไกการสร้างรายได้ของบริษัทมีความชัดเจนหรือไม่
- อะไรคือความได้เปรียบในการแข่งขัน (Moat) อะไรคือสิ่งที่ทำให้คู่แข่งลอกเลียนแบบได้ยาก
- เราเข้าใจอนาคตของอุตสาหกรรมนี้หรือไม่ เทคโนโลยีหรือเทรนด์จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจนี้ในระยะยาวอย่างไร
หากไม่สามารถตอบคำถามเหล่านี้ได้อย่างง่ายดายและชัดเจน ธุรกิจนั้นก็อาจอยู่นอกวงกลมความสามารถ ควรพิจารณาที่จะหลีกเลี่ยงการลงทุนนั้นไป
การยอมรับในสิ่งที่ไม่รู้
สิ่งที่สำคัญพอ ๆ กับการรู้ว่าต้องลงทุนในอะไร คือการกล้าที่จะ กล่าวว่า “ไม่” กับธุรกิจที่อยู่นอกวงกลมความสามารถ ไม่ว่าธุรกิจนั้นจะดูน่าตื่นเต้นหรือเป็นกระแสก็ตาม การยอมรับขีดจำกัดของตนเองในเรื่องความรู้ด้านการเงินนี้ ถือเป็นเครื่องหมายของความมีวินัยและความเป็นเหตุเป็นผลในการลงทุน
การประยุกต์ใช้หลักการสู่การลงทุนระยะยาว
การยึดมั่นใน Circle of Competence ส่งผลให้เกิดพฤติกรรมการลงทุนที่สอดคล้องกับความสำเร็จในระยะยาว
การโฟกัสไปที่คุณภาพของธุรกิจ
เมื่อนักลงทุนเข้าใจธุรกิจอย่างลึกซึ้ง จะทำให้สามารถประเมิน คุณภาพและมูลค่าที่แท้จริง ของธุรกิจได้ดีกว่า และไม่ต้องกังวลกับความผันผวนของราคาหุ้นในระยะสั้น เพราะความมั่นใจมาจากพื้นฐานของบริษัท ไม่ใช่จากการคาดการณ์ทิศทางของตลาด การลงทุนจึงมุ่งเน้นไปที่การเป็นเจ้าของธุรกิจที่ดีในราคาที่เหมาะสม
ความสม่ำเสมอในการตัดสินใจ
การตัดสินใจลงทุนที่อยู่บนพื้นฐานของความรู้ที่มั่นคง มักจะมีความ สม่ำเสมอและมั่นคง มากกว่าการตัดสินใจที่อิงกับอารมณ์หรือคำแนะนำจากภายนอก นักลงทุนที่มีวินัยจะไม่ถูกยั่วยุด้วยความโลภเมื่อเห็นคนอื่นทำกำไรจากธุรกิจที่ตนเองไม่เข้าใจ และจะไม่ตื่นตระหนกจนเกินเหตุเมื่อตลาดเกิดความผันผวน
ปรัชญา Circle of Competence ของวอร์เรน บัฟเฟตต์ ไม่ได้เป็นเพียงเคล็ดลับความสำเร็จเท่านั้น แต่เป็น หลักการพื้นฐาน ของการลงทุนที่มีเหตุผล มันสอนให้นักลงทุนรู้จักใช้ประโยชน์จากความรู้ของตนเอง และลดความเสี่ยงจากการพยายามเป็นผู้รอบรู้ในทุกด้าน การหมั่นทำความเข้าใจขอบเขตความสามารถของตนเอง และลงทุนด้วยความอดทนและวินัยภายในวงกลมนั้น ถือเป็นรากฐานสำคัญของการสร้างความมั่งคั่งที่มั่นคงและยั่งยืน
